ประชาชน 4 ตำบล อำเภอเขาค้อ เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินตามประมวลกฏหมายที่ดิน คัดค้านไม่เอาเป็นที่ราชพัสดุ
เพชรบูรณ์- ประชาชนใน 4 ตำบล ของอำเภอเขาค้อ
ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินตามประมวลกฏหมายที่ดิน
และคัดค้านไม่เอาเป็นที่ราชพัสดุ
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณจุดชมวิว อำเภอเขาค้อ
ประชาชนใน 4 ตำบล ของอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีทั้งราษฏรอาสา (รอส.)
ทายาทราษฏรอาสา ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
(ผรท.) และประชาชน ประกอบด้วย ตำบลเขาค้อ ริมสีม่วง หนองแม่นา สะเดาะพง และจากต่างจังหวัด ได้แก่ระยอง สุรินทร์ ศรีษะเกศ นครราชสีมา
จำนวนกว่า 700 คน มาปักหลักรวมตัวกันเรียกร้อง กันที่หอประชุมอำเภอเขาค้อ
เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินตามประมวลกฏหมายที่ดิน
และคัดค้านไม่เอาเป็นที่ราชพัสดุ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าร่วมรับฟังปัญหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ปัญหาที่ดินของอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่ผ่านมาประชาชนได้ทราบและตรวจพบหลักฐานว่า รัฐบาลโดยจังหวัดเพชรบูรณ์
ในขณะนั้นได้ดำเนินการจัดที่ดินแปลงใหญ่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามมติคณะรัฐมนตรี
ปี 2518 จำนวน 57,500 ไร่ มีการเดินสำรวจรังวัดขึ้นรูปแปลง
จนกระทั่งเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เมื่อปี 2527
และส่วนหนึ่งก็ได้ออกใบจองให้กับประชาชนไปแล้วจำนวน 585 แปลง
แต่ได้ถูกทางฝ่ายทหารท้วงติงไม่เห็นด้วย ในเวลานั้น เรื่องการดำเนินการออกใบจอง
จึงได้ชะลอไว้ก่อนโดยไม่มีกำหนด จากนั้นก็ไม่มีการดำเนินการต่อ มาจนกระทั่ง ปี
2529 กรมป่าก็ได้ประกาศให้ป่าเขาปางก่อป่าวังชมพูและป่าเขาโปลกหล่น
เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ทับที่ดินของประชาชนที่ได้มีการจัดที่ดินแปลงใหญ่ตามประมวลกฎหมายที่ดินดังกล่าวโดยไม่กันพื้นที่ดังกล่าวออก
พร้อมกันนี้ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท. อย่างนายหน่อใจ แซ่หลอ ก็ได้กล่าวว่าที่ผ่านมาในอดีตเป็นผู้หนึ่งที่ได้วางวุธออกจากป่ามามอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติ (ผรท.) ตามคำสั่งที่ 66/23 ภายใต้เงื่อนไข 1 ใน 4 เรื่อง คือเรื่องที่จะให้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง จำนวน 15 ไร่ และที่อยู่อาศัยอีก 2 งาน แต่จนถึงปัจจุบันตนเองพร้อมครอบครัวก็ยังไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐ ยังต้องเช่าที่ดินซึ่งเป็นที่ราชพัสดุอยู่จนถึงทุกวันนี้ และไม่เห็นด้วยกับวิธีการแก้ไขปัญหาของภาครัฐที่ก่อนหน้านี้ ได้ประกาศกำหนดให้พื้นที่ตำบลเข็กน้อยไปเป็นที่ราชพัสดุไปแล้วด้วย พร้อมกันนี้ นายหล่อใจ ฯ ยังได้ร่ายบทกลอนฝากไว้ให้ได้คิด
“บ้านขี้เถ้าภูลมโล เป็นตำนานแห่งมวลประชา
แม่น้ำผืนป่าและแผ่นดิน เป็นสายสัมพันธ์
ไม่สิ้นเป็นถิ่นกำเนิด ที่ไทม้งอยู่มานาน
ป่ากับเมืองประสานกัน เป็นสัญญาวันแห่งชัย
แม้สายลมจะเปลี่ยทิศ แต่ดวงจิตมิได้เปลี่ยนเลย
ยืนหยัดมั่นคงดั่งดาวเหนือ คุณธรรมสร้างคน
ประชาชนสร้างชาติ”
เช่นเดียวกับเหล่าทหารพรานผู้กล้า ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินให้ได้ข้อยุติ ปัญหาที่หมักหมมมานานชั่วอายุคนแล้วให้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐ มีความพยายามแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ ด้วยการจัดทำให้เป็นที่ดิน คทช. และ ให้เป็นที่ดินราชพัสดุ แต่ก็ไม่ปิดกั้นที่จะให้ประชาชนพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดิน ล่าสุดจึงได้ออกมารวมตัวเรียกร้องคัดค้านไม่ยอมรับให้พื้นที่ 4 ตำบลในอำเภอเขาค้อไปเป็นที่ราชพัสดุ เรียกร้องหากเมื่อเพิกถอนป่าสงวนฯ แล้วต้องการให้จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้จัดทำโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 ตั้งแต่ต้น และได้เดินสำรวจเพื่อออกโฉนดและได้ออกไปจองให้กับประชาชนไปแล้วนั้น ได้ดำเนินต่อให้เสร็จสิ้น ไม่ใช่เอาพื้นที่ที่มีการดำเนินการตามประมวลกฏหมายที่ดินที่มีอยู่เดิม ให้ไปเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับประชาชน กระทั่งล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีประชาชนใน 4 ตำบล ของอำเภอเขาค้อจำนวนหนึ่ง ได้เข้าชื่อยื่นร้องเรียนต่อ ปปช. ในการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 8 รายด้วย.
เพชรชัยออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น